บันทึกการเรียนประจำวันพฤหัสบดีที่ 4 ธันวาคม 2557

บันทึกการเรียน

วันสุดท้ายของการเรียน
วิชาการจัดประสบการณ์ด้านภาษาสำหรับเด็กปฐมวัย

1.สอบร้องเพลง

เพื่อนๆสอบร้องเพลง

           ในการสอบร้องเพลง ให้นักศึกษาจับฉลากว่าได้เพลงไหนก็ร้องเพลงนั้น เเต่ให้โอกาสในการจับ 2 ครั้ง หากร้องไม่ได้ก็จะให้เพื่อนๆช่วยร้องให้ฟังก่อน 1 รอบ

  ดิฉันได้ร้องเพลง แม่ไก่ออกไข่

ได้ 5 คะแนนเต็มทุกคนคะ

2.มอบรางวัลเด็กดี

 ใบสะสมรางวัลเด็กดี

 รางวัลเด็กดี *ฮิปโปน้อย*น่ารักที่สุดค่ะ

ดิฉันได้รับรางวัลเด็กดี

 ได้เข้าเรียนและมีดาวสะสมรวม 19 ดวงค่ะ

*-* ขอบคุณค่ะ *-* 

อาจารย์ให้พรกับนักศึกษาในการสอบปลายภาคเรียนที่ 1

ขอให้ได้ เกรด A ทุกคน สาธุ!!!!

ความรู้ที่ได้รับและการนำไปใช้ 

             นักศึกษาสามารถร้องเพลงสำหรับเด็กปฐมวัยได้ กล้าแสดงออกมากขึ้น  เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมสำหรับการประกอบอาชีพในอนาคต

การประเมิน

ประเมินเพื่อนร่วมชั้นเรียน ;วันนี้ทุกคนตั้งใจร้องเพลง ทั้งยังตื่นเต้นค่ะ

ประเมินตนเอง  ; ตั้งใจร้องเพลง และจะชอบแซวเพื่อน ดีใจที่ได้รับรางวัลเด็กดี   และชอบร้องเพลงค่ะมีความสุขดี

ประเมินอาจารย์ผู้สอน ; อาจารย์ให้นักศึกษาสามารถร้องเพลงได้อย่างสบายใจไม่กดดันเป็นกันเอง  ทั้งยังให้กำลังใจกับนักศึกษาในการสอบปลายภาคด้วยขอบคุณค่ะ

บันทึกการเรียนประจำวันพฤหัสบดีที่ 27 พศจิกายน 2557

บันทึกการเรียน 

1.การจัดสภาพแวดล้อมเพื่อส่งเสริมประสบการณ์ทางภาษา

• สร้างสภาพแวดล้อมให้เด็กคุ้นเคยกับการใช้ภาษาอย่างมีความหมาย   (ใช้ภาษาธรรมชาติ)
• เด็กได้ทำกิจกรรมที่ส่งเสริมทักษะทางภาษาโดยไม่เน้นที่เนื้อหาทางภาษา ( การจัดมุมต่างๆ เช่น มุมวิทยาศาสตร์เด็กจะได้ลงมือกระทำเอง)

"เน้นที่เด็กได้ลงมือกระทำด้วยตนเองเองและเป็นไปอย่างอิสระ"

2.เรียนเรื่องประสบการณ์สำคัญที่ส่งเสริมพัฒนาการภาษาสำหรับเด็กปฐมวัย

1.การแสดงความรู้สึกด้วยถ้อยคำ

  "ถามเด็กโดยใช้คำถามปลายเปิด"

2.การสื่อสารกับผู้อื่น

3.เด็กได้มีโอกาสฟัง และมีความเข้าใจ

4.การเขียนในหลายรูปแบบผ่านประสบการ์ณในที่สื่อสารที่มีความหมายต่อเด็ก
5.การอ่านในหลายรูปแบบผ่านประสบการ์ณในสื่อความหมายต่อเด็ก



ตัวอย่างกิจกรรม
การส่งเสริมทักษะทางภาษา

-การเขียนตามคำบอกของเด็ก

-ช่วยเด็กเขียนบันทึก

-อ่านนิทานร่วมกัน

-เขียนประกาศเพื่อแจ้งข่าว เตือนความจำ

-อ่านคำคล้องจอง

-ร้องเพลง

-เล่าสู่กันฟัง

-เขียนสารถึงกัน

การประเมิน
1.ใช้เครื่องมือในการประเมินที่หลากหลาย
2.เน้นถึงความก้าวหน้าของเด็ก
3.ประเมินจากบริบทที่หลากหลาย
4.ให้เด็กมีโอกาสประเมินตนเอง
5.ครูให้ความสนใจทั้งกระบวนการและผลงาน
6.ประเมินเด็กเป็นรายบุคคล

3.ร้องเพลง(10 เพลง )

1. เพลงนั่งรถไฟ
2. เพลงเรือพาย
3. เพลงเล่นแล้วเก็บ
4. เพลงว่าว
5. เพลงนม
6. เพลงไข่
7. เพลงกล้วยบวชชี
8. เพลงนาฬิกา
9. เพลงดวงอาทิตย์
10. เพลงดวงจันทร์

4.ร้องเพลงประกอบการแสดงนิทาน

ครูและเพื่อนร้องเพลงประกอบการแสดงนิทาน
                           

กลุ่มดิฉันและกลุ่มเพื่อนร้องเพลงประกอบการแสดงนิทาน

นิทานลุงมาชาวนา

นิทานนั่งรถไฟ และพี่น้องกัน 

 นิทานผีเสื้อแสนงาม

นิทานรำวงดอกมะลิ

การบ้าน

1. “อะไรเอ่ย มีไว้ใช้เดิน แสนเพลินอุรา ก้าวไป ก้าวมา เดินหน้าถอยหลัง” (ขา)
2. “อะไรเอ่ย สี่ล้อหมุนล้อ เครื่องยนต์ก็มี ขับเร็วด่วนจี๋ ถึงที่ปลอดภัย (รถยนต์)

ความรู้ที่ได้รับและการนำไปใช้

• การใช้ปริศนาคำทายนั้นจะสามารถทำให้เด็กได้คิดพร้อมทั้งเรียนรู้จากประสบการณ์เดิมเชื่อมโยงสู่คำตอบ พร้อมทั้งยังเข้าใจทันที
• การเล่านิทานแบบร้องเพลงด้วยนั้นจะทำให้ห้องเรียนไม่เงียบเหงาเพราะมีความสนุกสนานผู้เล่าและตัวละครต่างก็ได้เคลื่อนไหว

การประเมิน

ประเมินเพื่อนร่วมชั้นเรียน ; ให้ความร่วมมือ ทำงานกันเป็นระเบียบเรียบร้อย สนุกสนานกับกิจกรรมต่างๆ

ประเมินตนเอง  ;แต่งตัวเรียบร้อย ตั้งใจฟัง และกล้าแสดงออกมากขึ้น และมีส่วนร่วมกับกิจกรรมในห้องเรียน

ประเมินอาจารย์ผู้สอน ; สอนง่ายเข้าใจดี มีตัวอย่างในการสอน มีนิทานเทคนิคใหม่ๆๆมาเล่าให้นักศึกษาฟังสนุกไปอีกแบบค่ะ

บันทึกการเรียนประจำวันที่ 20 พฤศจิกายน 2557

บันทึกการเรียน

1. ให้นักศึกษาแบ่งกลุ่ม ทำ หนังสือนิทาน *มันคืออะไร*

อาจารย์แนะนำวิธีการทำนิทาน

 นักศึกษาลงมือทำนิทาน

 ระบายสีนิทาน

  ลงเส้นกรอบนิทาน

เน้นข้อความเพื่อให้เนื้อเรื่องดูโดดเด่นสวยงาม

และเป็นการสอนภาษาให้กับเด็ก

เสร็จเรียบร้อยค่ะนิทานเรื่อง"ฉันคืออะไร"

ความรู้ที่ได้รับและการนำไปใช้ 

นักศึกษาทราบเทคนิคในการทำนิทานที่น่าสนุกเร้าใจและตื่นเต้น

ทั้งยังช่วยให้เด็กได้คิดได้จินตนาการ ฝึกให้เด็กได้ใช้สมอง ค่ะ

การประเมิน

ประเมินเพื่อนร่วมชั้นเรียน ;  วันนี้มาเรียนน้อย ไม่ดีเลยค่ะ

ประเมินตนเอง  ; ตั้งใจฟังครูมาก บางครั้งก็พูดมาก 

ประเมินอาจารย์ผู้สอน ; แนะนำเทคนิคการทำนิทานได้ดีค่ะ

บันทึกการเรียนประจำวันที่ 13 พฤศจิกายน 2557 (สัมมนาทางการศึกษาปฐมวัย)

สัมมนาทางการศึกษาปฐมวัย

"โลกแห่งนิทานสรรค์สร้างเด็กปฐมวัย"

วันพฤหัสบดีที่ 13  พฤศจิกายน 2557

ณ ห้องประชุมชั้น 8 อาคารจันทรากาญจนาภิเษก

นักศึกษาเข้าร่วมโครงการ

วิทยากรแนะนำเทคการทำนิทาน

 นักศึกษาทำนิทานกลุ่ม โดยมีอาจารย์คอยให้คำปรึกษา

ทำสื่อ หัวรถไฟ(ขบวนรถไฟ ฉึกฉัก)

รถไฟฉึกฉักพร้อมออกเดินทางแล้ว

 

แสดงนิทาน เรื่อง "ฉึกฉัก ฉึกฉัก"

นักศึกษาถ่ายรูปร่วมกับวิทยากร

ความรู้ที่ได้รับ

•  ทราบถึงเทคนิคในการทำนิทาน ต่างๆ เช่น ใช้ถุงกระดาษ มาทำหุ่นเชิด  ใช้เล่านิทานได้อย่างสนุกสนานและมีสีสัน

การประเมิน

ประเมินเพื่อนร่วมชั้นเรียน ; เพื่อนๆให้ความร่วมมืออย่างดี และสามารถทำงานกับรุ่นพี่ได้

ประเมินตนเอง  ; ทำงานช่วยพี่ๆและมีส่วนร่วมในกิจกรรม

ประเมินอาจารย์ผู้สอน ;ให้เทคนิคต่างๆในการเล่านิทานได้อย่างสนุกสนานไม่น่าเบื่อ

บันทึกการเรียนประจำวันที่ 6 พฤศจิกายน 2557

บันทึกการเรียน

1.สอบร้องเพลงรายบุคคล (หน้าชั้นเรียน)

2.สอบการสอนเด็กอ่านเพลงและร้องเพลง พร้อมท่าประกอบเพลง

        คุณครูอ่านให้เด็กฟังก่อน 1 รอบ

       เด็กๆอ่านตามคุณครู

       คุณครูกับเด็กอ่านพร้อมๆกัน

      คุณครูพี่ๆนิสิตทำท่าประกอบเพลง

3.ฝึกการเขียนกระดานในท่ายืน (เขียนตามที่เด็กพูด)

   คนละ2 ประโยค เกี่ยวกับเรื่องทะเล

4.แนะนำวิธีการทำหนังสือนิทาน เรื่อง มันคืออะไร 

ความรู้ที่ได้รับและการนำไปใช้

• ฝึกให้เรากล้าแสดงออกในการร้องเพลงต่อหน้าบุคคลอื่นๆ  ฝึกให้เราได้นำเทคนิคในการสอนเด็กอ่านเพลงไปใช้ในอนาคตได้
• ในอนาคตนักศึกษาต้องได้เขียนตามที่เด็กพูดอย่างแน่นอนการฝึกในวันนี้จึงเป็นการเตรียมความพร้อมสำหรับคุณครูในอนาคตได้เป็นอย่างดี

การประเมิน

ประเมินเพื่อนร่วมชั้นเรียน ;เพื่อนๆน่ารักสนุกสนานให้ความร่วมมือ แต่บางครั้งก็แกล้งเพื่อนในห้อง.

ประเมินตนเอง  ; ตั้งใจฟัง และทำกิจกรรมอย่างเต็มที่   และตื่นเต้นที่ได้ออกไปเขียนตามที่เพื่อนๆๆพูดจนเกร็งไปนิดหน่อย.

ประเมินอาจารย์ผู้สอน ; อาจารย์เปิดโอกาสให้นักศึกษาได้แสดงความคิดเห็นอย่างเต็มที่พร้อมกับเรียนรู้ไปพร้อมๆๆกับนักศึกษา

บันทึกการเรียนประจำวันที่ 30 ตุลาคม 2557

บันทึกการเรียน

1. สอนเรื่องการสอนแบบโครงการ หรือ Project Approach

          
            การสอนแบบโครงการ หมายถึง ให้โอกาสเด็กเรียนรุ้โดยการสืบค้นหาข้อมูลในเรื่องที่เด็กสนใจ เด็กมีโอกาสหาคำตอบด้วยตนเองเองโดยมีครูช่วยเหลือ

กระบวนการการสอนแบบโครงการมีดังต่อไปนี้

1. การอภิปรายกลุ่ม (Group Discussion)

2. การทำงานภาคสนาม (Field Work)

3. การนำเสนอประสบการณ์ (Representation)

4. การสืบค้น (Investigation) 

5. การจัดแสดง (Display) 

 โครงการซึ่งมี 3 ระยะ ได้แก่

ระยะที่ 1 ทบทวนความรู้เดิมและความสนใจของเด็ก
ระยะที่ 2 ให้เด็กมีประสบการณ์ใหม่
ระยะที่ 3 ประเมิน สะท้อนความคิด และแลกเปลี่ยนงานโครงการ

2.ความแตกต่างระหว่างการสอนแบบหน่วยและการสอนแบบโครงการ

 การสอนแบบหน่วย   การวางแผนกิจกรรมต่างๆตามหัวเรื่องที่ครูพิจารณาแล้วว่าสำคัญและเด็กควรรู้ และครูมีการวางแผนการสอน กำหนดแนวคิดและสาระที่ต้องการให้เด็กทราบอย่างชัดเจน

การสอนแบบโครงการ ให้โอกาสเด็กเรียนรุ้โดยการสืบค้นหาข้อมูลในเรื่องที่เด็กสนใจ เด็กมีโอกาสหาคำตอบด้วยตนเองเองโดยมีครูช่วยเหลือ
  

3. แบ่งกลุ่มทำกิจกรรมเกี่ยวกับการสอนแบบโครงการ( Project Approach) ว่าส่งเสริมทักษะทางด้านใดบ้างและสอดคล้องกับภาษาธรรมชาติอย่างไร พร้อมกับนำเสนอหน้าชั้นเรียนทีละกลุ่ม

   ส่งเสริมทักษะทางด้านการฟัง ได้คำศัพท์ใหม่ๆ  การพูดเล่านิทานได้กล้าแสดงออก การอ่านอ่านได้เพราะเห็นคำศัพท์อยู่เสมอๆ และการเขียน เด็กวาดรูปจากสิ่งที่เห็นและอาจจะเขียนคำศัพท์ได้ด้วย

   สอดคล้องกับภาษาธรรมชาติ คือเด็กได้เรียนรู้สิ่งต่างๆรอบตัว เช่นเห็นคำศัพท์บ่อยๆๆเด็กก็จะเข้าใจโดยไม่ใช่การจดจำ

ความรู้ที่ได้รับและการนำไปใช้

•    การสอนแบบโครงการ หรือ Project Approach  ในอนาคต จะส่งเสริมให้เด็กรู้จักริเริ่มตัดสินใจว่าควรทำอะไร  โดยที่เด็กมีความสามารถในการเรียนรู้ด้วยตนเอง มีครูเป็นผู้ให้คำแนะนำ และเด็กเป็นผู้ตัดสินใจลงมือทำด้วยตัวเอง 

      

การประเมิน

ประเมินเพื่อนร่วมชั้นเรียน ; ให้ความร่วมมือ ทำงานกันเป็นระเบียบเรียบร้อย

ประเมินตนเอง  ;แต่งตัวเรียบร้อย ตั้งใจฟัง และกล้าแสดงออกมากขึ้น

ประเมินอาจารย์ผู้สอน ; สอนง่ายเข้าใจดี มีตัวอย่างในการสอน